กระทรวงเกษตร ของบ 98 ล้านบาท อบรมใช้สารเคมีอันตราย ‘พาราควอต-ไกลโฟเซต-คลอร์ไพริฟอส’

กระทรวงเกษตร ของบ 98 ล้านบาท อบรมใช้สารเคมีอันตราย ‘พาราควอต-ไกลโฟเซต-คลอร์ไพริฟอส’

สารพาราควอต – วันที่ 17 มิ.ย. ไทยรัฐออนไลน์ รายงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของบประมาณ 98 ล้านบาทจัดอบรมวิธีการใช้ 3 สารเคมีอันตรา ได้แก่ ‘พาราควอต-ไกลโฟเซต-คลอร์ไพริฟอส’ ให้เกษตรกร 1.5 ล้านครอบครัวที่ลงทะเบียนไว้ เพราะหากไม่อบรมจะไม่มีสิทธิ์ซื้อสารเคมีดังกล่าวมาใช้ หรือมีไว้ในครอบครองไม่ได้

การควบคุมดังกล่าวสืบเนื่องมาจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประกาศจำกัดการใช้สารเคมีเกษตร พาราควอต ไกลโฟเซต หรือสารกำจัดวัชพืช 

และคลอร์ไพริฟอส หรือสารกำจัดแมลงศัตรูพืช จะมีผลบังคับใช้ วันที่ 20 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป กระทรวงกระเกษตรฯ จึงต้องเร่งจัดอบรมให้ทันก่อนวันบังคับใช้ เมื่อผ่านการอบรมจะสามารถซื้ออสารเคมีดังกล่าวได้ที่ร้านค้าโดยใช้เลขที่บัตรประชาชน ส่วนผู้รับจ้างพ่นสารเคมี หากไม่ผ่านจะพ่นสารไม่ได้ โดยร้านค้าที่จำหน่ายจะต้องให้มีการอบรมวิธีการเก็บสารเคมี และการจำหน่ายให้กับผู้ใช้อย่างถูกต้อง หากกระทำผิดจะมีโทษตามกฎหมายทั้งจำและปรับ ทั้งนี้ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร มีพื้นที่ปลูกพืช มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน ไม้ผล พืชไร่ และไม้ดอก

แฟนคลับระทึก น้ำขึ้นพา ‘มาเรียม’ เกยตื้น มาเรียม พะยูน – วันที่ 17 มิ.ย. เรียกว่าเป็นลูกสาวชาวเน็ตคนใหม่ ‘มาเรียม’ ลูกพะยูนน้อยแห่งเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ที่พลัดหลงกับแม่จนเจ้าหน้าที่ต้องนำมาอนุบาล คอยดูแลจนกว่าจะโตและสามารถใช้ชีวิตตามลำพังได้ ตอนกลางคืนก็นอนอิงแอบเจ้าหน้าที่เพราะคิดว่าเป็นแม่มัน สร้างความเอ็นดูให้กับคนที่เฝ้าติดตามชีวิตเจ้ามาเรียม ล่าสุด เล่นเอาแฟนคลับใจแป้ว เมื่อถึงช่วงน้ำขึ้น ทำให้เจ้ามาเรียมน้อยมาเกยตื้นอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าดูตลอด 24 ชั่วโมงจึงต้องคอยช่วยพากลับไปยังจุดน้ำลึก

“ช่วยมาเรียมเกยตื้น!!!เจ้าหน้าที่ช่วยมาเรียมปล่อยน้ำลึก หลังพบเกยตื้น เหตุเป็นช่วงน้ำขึ้น

วันนี้ 17มิ.ย.62 นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง รายงานว่า เมื่อเวลา 02.30 น. เจ้าหน้าเขตฯลิบง ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เฝ้าระวังลูกพะยูน (มาเรียม) พบเกยตื้นที่อ่าวดูหยงเจ้าหน้าที่ได้นำออกไปปล่อยลงน้ำลึกได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ทางหัวหน้าเขตห้ามล่าแจ้งมาว่าใน 1 เดือน จะมีช่วงน้ำขึ้น 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 7 วัน ซึ่งช่วงดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมาเรียมยังเล็ก ซึ่งหากเป็นพะยูนทั่วไปก็จะไม่น่ากังวลเท่าไรนัก”

ตบตาเป็นรองเท้า ไอซ์เกือบ 1 ตัน ซุกตู้คอนเทนเนอร์  

จับยาไอซ์ – วันที่ 17 มิ.ย. ตำรวจกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 (บก.ปส.3) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) บุกยึดยาไอซ์ เกือบ 1 ตันซ่อนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ ในลานรับฝากตู้สินค้าแห่งหนึ่งใน ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ตู้สินค้าดังกล่าวเป็นของชาวจีน ส่งมาจากบริษัทขนส่งสินค้าแห่งหนึ่งในเขตลาดกระบัง กทม. สำแดงว่าเป็นรองเท้าผ้าใบ ปลายทางคือประเทศฟิลิปปินส์ ขนส่งผ่านทางท่าเรือใน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 31 พ.ค. แต่สินค้าถูกตีกลับมา จึงนำมาฝากไว้ที่ลานแห่งนี้ เมื่อตรวจสอบภายในก็พบว่ามีลังใส่รองเท้าอยู่กว่า 30,000 คู่ และลังกระดาษที่มีข้อความข้างกล่องว่า “ตะเกียบอนามัย” จำนวน 34 ลัง พบไอซ์น้ำหนักรวม 985 กิโลกรัม มูลค่ามากกว่า 2 พันล้านบาท

นายจ้อยว่า แซ่โฟ้ง เจ้าของบริษัทรับขนส่งสินค้า ให้การว่าไม่รู้ว่ายาเสพติดทั้งหมดขึ้นมาปะปนกับสินค้าได้อย่างไร วันที่นำสินค้าขึ้นในตู้คอนเทนเนอร์ ตัวเองไม่ได้อยู่ที่บริษัท มีเพียงลูกน้องช่วยขนสินค้าในช่วงประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 15 พ.ค. ขณะที่กำลังขนสินค้า ชาวจีนที่เป็นเจ้าของสินค้าได้นำรถตู้อีกคันนำกล่องดังกล่าวมาใส่เพิ่มโดยอ้างว่าเป็นบุหรี่ที่จะลักลอบนำออกนอกประเทศไปด้วย ซึ่งในช่วงแรกจะไม่ยอมให้นำสินค้าดังกล่าวใส่ไป แต่นายสุบรรณอ้างว่าสามารถเคลียร์ของดังกล่าวได้ ตู้ดังกล่าวจึงถูกส่งมาที่ อ.ศรีราชา

พ.ต.ท.เทียนชัย ปรารมภ์ สว.กก.3 บก.ปส.3 กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็พบชาวจีนและคนสัญชาติอื่นเข้ามาก่อเหตุในลักษณะนี้ และใช้ช่องทางเรือเป็นที่ขนส่งยาเสพติดมากขึ้น เนื่องจากการตรวจจับค่อนข้างยาก เพราะเรือแต่ละลำจะบรรทุกสินค้าจำนวนมาก  เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) เพื่อจำหน่าย และขยายผลถึงกลุ่มขบวนการ รวมทั้งเครือข่ายที่นำยาเสพติดดังกล่าวเข้ามาในไทย

เงิบ เมียยอมรับ สามีเคอรี่ถูกยิงดับเหตุวินมอเตอไซค์ตีกัน คือมือค้อนทุบวินคู่อริในคลิป   หนุ่มเคอรี่ค้อนตีวินจยย. – วันที่ 17 มิ.ย. จากกรณีวินจักรยานยนต์รับจ้างยกพวกตีกันบริเวณ สุขุมวิท 103/2 แขวงบางนา เขตบางนา และมีการใช้อาวุธปืน ส่งให้มีคนถูกลูกหลง เสียชีวิต 1 ราย คือ นายวีรวัฒน์ พึ้งครุฑ พนักงานเคอรี่ อายุ  20 ปี ภายในซอยชุมชนซอยรุ่งเรือง1 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา

คลิปอีกมุมล่าสุดที่ปล่อยออกมามีแววส่อคดีพลิก เพราะปรากฏภาพ นายวีรวัฒน์ พึ้งครุฑ พนักงานเคอรี่ แท้จริงแล้วอยู่ในเหตุการณ์ร่วมทำร้ายวินจักรยานยนต์คู่อริด้วย ไม่ได้อยู่ในบ้านแต่แรกตามที่มารดาผู้ตายให้สัมภาษณ์

ล่าสุด น.ส.เฉลิมขวัญ​ ภรรยาของนายวีรวัฒน์ ได้ยอมรับสำนักข่าวเวิร์คพอยท์ว่า ชายสวมเสื้อสีแดงและใช้อาวุธทำร้ายคู่กรณีในคลิปว่อนโลกออนไลน์ คือสามีของตน ยอมรับว่ามีการเปลี่ยนเสื้อให้ผู้ตาย ตอนแรก นายวีรวัฒน์ สวมใส่เสื้อสีแดง แต่พอเกิดถูกยิงจึงได้คว้าเสื้อที่อยู่ใกล้ที่สุดมาเปลี่ยนให้ แต่ไม่ได้มีเจตนาจะเปลี่ยนเสื้อเพื่อหลบหนีความผิดแต่อย่างใด